- หน้าแรก
/
- รูป Ogimachi Village Shirakawa go

4.7

บรรยากาศ
[Chubu-Gifu] หมู่บ้านมรดกโลก เวลาหยุดหมุนเมื่อมาเยือนที่นี่ สวยงามตลอดปีคนละแบบตามช่วงฤดูกาลที่มาจริงๆแล้วชื่อ Shirakawa-Go เป็นชื่อเรียกของย่านนี้ที่เป็นพื้นที่ท่ามกลางหุบเขาสูงครับ แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเรียกชื่อหมู่บ้านนี้ทับศัพท์แทนด้วยชื่อนี้ไปแล้ว ชื่อหมู่บ้านนี้แท้จริงแล้วคือ Ogimachi (荻町) เป็นชื่อหมู่บ้านที่มีพื้นที่กว้างสุดและเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของ Shirakawa-Go
## ที่ตั้ง: ภูมิภาค Chubu ตอนกลางของเกาะฮอนชู ตรงกลางระหว่างภูมิภาค Kansai (Osaka) กับ Kanto (Tokyo) ในจังหวัด Gifu หมู่บ้านอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือจากตัวจังหวัด มีรถบัสสาธารณะจาก Takayama ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
## ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกหรือ UNESCO World Heritage Site ในปี 1995 ด้วยความที่ยังคงอนุรักษ์บ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบโบราณขนานแท้ และยังคงความสวยงามแบบดั้งเดิม (บางหลังมากกว่า 250 ปี) เรียงรายกว่าร้อยหลังท่ามกลางหุบเขา ที่เรียกว่า Gassho-zukuri หลังคาทรงสามเหลี่ยมสูงมีความชัน เพื่อใช้รองรับและเทหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวของที่นี่ครับ และรูปร่างหลังคานี้ที่เหมือนสองมือพนมจึงเรียกว่า “Gassho”
## จากลานจอดรถทางเข้าหลักของที่นี่จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่และพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับหมู่บ้านนี้ใกล้ๆกัน (เก็บค่าเข้า) ตัวหมู่บ้านจริงๆจะต้องเดินขึ้นเนินเขาเตี้ยๆเพื่อเดินข้ามสะพานแขวนข้ามแม่น้ำ Shokawa ที่กั้นหมู่บ้านกับลานทางเข้าไว้ จุดสะพานแขวนนี้ก็เป็น Viewpoint อันแรกที่คนมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันเยอะครับ สวยดี แม่น้ำไม่ลึกมามองเห็นโขดหินและน้ำใสมาก ข้ามมาจะเป็นบริเวณหมู่บ้านแล้ว
## ไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่นี่ คือ Sight-seeing ครับ มาสัมผัสบรรยากาศของหมู่บ้านเงียบสงบใจกลางหุบเขา เยี่ยมชมบ้านฟาร์มรูปทรงสามเหลี่ยมอย่างที่บอกไปข้างบน ทางเดินโดยรอบหมู่บ้านสามารถเดินเข้าได้ฟรีเพื่อถ่ายรูป ยกเว้นบ้านบางหลังใหญ่ๆของตระกูลร่ำรวยดั้งเดิมของพื้นที่นี่ เค้าเปลี่ยนเป็น Public Museum จะมีค่าเข้าไปเยี่ยมชม คนละน่าจะ ¥300 อย่างเช่น บ้านหลังใหญ่ของตระกูล Wada Kanda และ Nagase
## ตอนเหนือของหมู่บ้านจะเป็นทางเดินขึ้นเขาเพื่อไปจุด Shiroyama Viewpoint (ใช้เวลาเดิน 10-15 นาที) ปิดในช่วงหน้าหนาวเพราะหิมะลงหนา วิวจากมุมนี้มองลงมาเห็นวิวหมู่บ้านเรียงราย เหมือนในรูปโปรโมทการท่องเที่ยวที่นี่ครับ (เค้าถ่ายจากตรงจุดนี้ครับ) หรือถ้าไม่สะดวกเดินเค้ามีบริการ Shuttle Bus ด้วย เสียเงินครับ น่าจะไม่เกินคนละ ¥200
## ส่วนตัวผมว่าระบบจัดการของที่นี่ทำได้ดีมากนะครับ เค้ามีป้ายบอกทางภายในหมู่บ้าน จัดแบ่งโซนร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และ Minshuku (Guesthouse สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนร่วมกับครอบครัวที่นี่ เพื่อเรียนรู้ธรรมเนียมและวิถีชีวิตของคนที่นี่) และทิศเหนือของหมู่บ้านติดกับแม่น้ำก่อนทางขึ้น viewpoint จะมีบ่ออาบน้ำพุร้อนของที่นี่ชื่อ Shirakawago no Yu (ค่าเข้าใช้บริการคนละ ¥700) พร้อมโรงแรมที่พัก (เห็นหลายคนบอกว่าค่อนข้างแพงครับค่าที่พัก)
## ข้อควรระวังของการมาแวะเที่ยวที่นี่ เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจริงๆครับ เห็นบางบ้านหรือร้านมีจอดรถดูดีอยู่เลยในบ้าน ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์หรือร้านค้าทั้งหมด ดังนั้นเป็นที่ส่วนบุคคลจึงต้องระวังห้ามเข้าไปรุกล้ำบ้านเค้าเพื่อเก็บภาพต่างๆจนเกินพอดี สถานที่นี้เค้าจะมีการเตือนไว้อยู่ครับ
## ตอนที่ไปต้นเดือน พ.ย.เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ได้เห็นวิวใบไม้สีเหลืองส้มตัดกับเขียวบ้างบนภูเขาตอนนั่งรถมาที่นี่ สวยงามดี พอถึงในหมู่บ้านเจอฝนตกพอดี แต่ไหนๆมาแล้วต้องเข้าเยี่ยมชมเก็บบรรยากาศครับ ได้อารมณ์ชุ่มฉ่ำดี ใบไม้เปลี่ยนสีในหมู่บ้านสวยอีกแบบหนึ่งครับ ถ้ามาช่วงเลยจากนี้อีกหน่อยถึงต้นปีเป็นหน้าหนาวหิมะจะลงหนา ได้อารมณ์อีกแบบหนึ่งครับ ถ้ามาช่วงฤดูดอกไม้บานจะออกอุ่นๆหน่อย ได้วิวดอกไม้หลากหลายสีสวยอีกแบบ เรียกว่าอยากได้อารมณ์ไหนมาเที่ยวได้ทุกช่วงครับ
สรุป 5 ดาว ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนละแวกนี้
29 Likes0 Comment


